ลงทะเบียน
ใกล้กัน ช่วยให้คุณแชร์เรื่องราวต่างๆ กับผู้คนมากมาย

โดย

สำหรับน้ำมันเครื่องแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้

  1. 1. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ (Full Synthetic) ถือเป็นน้ำมันเครื่องที่มีราคาแพง และดีที่สุด เพราะมีการผลิตที่พิถีพิถัน ประกอบกับกรรมวิธีต่างๆ ถูกคิดค้น และทำวิจัยมาเป็นอย่างดี จึงทำให้มีประสิทธิภาพการหล่อลื่นเครื่องยนต์สูงสุด แถมอัตราการระเหยต่ำ สามารถปกป้องเครื่องยนต์ และชิ้นส่วนต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้บางยี่ห้อยังสามารถใช้งานได้ยาวนาน ตั้งแต่ 15,000 - 20,000 กิโลเมตร เหมาะสมอย่างมากสำหรับรถที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
  2. น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi Synthetic) นับเป็นน้ำมันเครื่องที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากราคาอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ถูกไม่แพง เพราะใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ผสมกับน้ำมันจากธรรมชา ติ ซึ่งอัตราส่วนผสมจะอยู่ที่เท่าไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตในแต่ละยี่ห้อนั้นๆ สูตรใครสูตรมัน ส่วนประสิทธิภาพการหล่อลื่น การปกป้องเครื่องยนต์ก็นับว่าใช้ได้ดี และอายุการใช้งานก็อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ตั้งแต่ 5,000 - 10,000 กิโลเมตร
  3. น้ำมันเครื่องธรรมดา (Synthetic) ราคาถูกที่สุดในบรรดาน้ำมันเครื่องทั้งหมด เพราะเป็นน้ำมันที่ได้จากการกลั่นจากน้ำมันดิบ หรือพูดง่ายๆ ก็คือน้ำมันที่ได้มาจากธรรมชาติ 100% นั่นเอง และเนื่องจากมันเป็นน้ำมันที่ได้มาจากการกลั่นน้ำมันดิบ จึงทำให้มีประสิทธิภาพด้อยกว่า 2 แบบแรก แถมอายุการใช้งานก็สั้นกว่าด้วย ระยะเปลี่ยนถ่ายส่วนใหญ่อยู่ที่ 3,000 - 7,000 กิโลเมตร


     สรุปน้ำมันเครื่องดีที่สุดคือ น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ เพราะมันมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าประเภทอื่นๆ ทุกด้าน ใช้ได้ทั้งกับรถเก่า-รถใหม่ หากใครมีงบจำกัด แนะนำให้ใช้ น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ แทนก็ได้ หรือถ้าไม่มีงบจริงๆ หรือไม่สนใจเรื่องของประสิทธิภาพ จะใช้น้ำมันเครื่องธรรมดาก็ได้เช่นกัน

     แต่ที่สำคัญที่สุด ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุกครั้งเมื่อถึงระยะที่กำหนด เพื่อที่เครื่องยนต์จะได้สมบูรณ์ และสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

Captcha Challenge
ลองรูปภาพใหม่
Type in the verification code above