Intel i3 i5 i7 ต่างกันยังไง ?

สำหรับใครที่ขี้เกียจอ่าน ก็ให้เรียงความแรงตามตัวเลข i3 i5 และ i7 (ราคาก็ยิ่งสูงตามเช่นกัน) ซึ่งในกรณีที่เป็น Generation เดียวกัน i มากกว่าโดยส่วนมากจะมีความเร็วที่มากกว่า

ขั้นแรกมาทำความรู้จักสิ่งที่เรียกว่า Core และระบบ Hyper Threading กันก่อน

โดย Core เป็นหน่วยประมวลผลของ CPU หรือแกนหลักของ CPU (ตามชื่อ) เปรียบเทียบง่าย ๆ เป็นแรงงานของ CPU ถ้ามี 4 Core ก็เทียบได้เป็นแรงงาน 4 คน (จำนวนแรงงาน 4 คนเนี่ยเราเรียกอีกอย่างว่า 4 Thread)

ส่วนระบบ Hyper Threading เป็นระบบที่จะทำให้แต่ละ Core จะมีผู้ช่วยเพิ่มมาอีก 1 Thread ซึ่งHyper Threading จะสร้าง Core เทียมของ CPU แต่ละ Core ขึ้นมา ทำให้จำนวน Thread รวมเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากปกติ จากเดิมที่ CPU 2 Core จะมี 2 Thread ถ้ามีระบบ Hyper Threading จะทำให้จำนวน Thread เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวทำให้มีถึง 4 Thread

อย่างไรก็ตาม CPU บางตัวจะไม่มีระบบ Hyper Threading

ซึ่งที่อธิบายมาทั้งหมด ต้องการจะบอกว่า CPU i3 i5 และ i7 มี Core และ Thread ไม่เท่ากัน

แล้วแต่ละรุ่นมีจำนวน Core และ Thread เท่าไหร่?

โดยทั่วไป CPU Intel i3 i5 i7 จะมี Core และ Thread อยู่ประมาณนี้

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า i3 i5 i7 ทุกรุ่นจะมีจำนวน Core และ Thread เท่านี้ อย่างเช่น i7 แบบ Extreme บางรุ่นอาจจะมีถึง 6 – 8 Core

Intel i3 มี 2 Core 4 Thread
Intel i5 มี 4 Core 4 Thread
Intel i7 มี 4 Core 8 Thread

Clock

Clock คือ ความเร็วสัญญาณนาฬิกา ถ้าเรียกแบบไทย ๆ Clock เป็นความเร็วในการประมวลผล มีหน่วยเป็น GHz (หนึ่งพันล้านรอบ/วินาที)

ซึ่งจะมีความเร็วพื้นฐาน (เลขน้อยกว่า) และความเร็ว Turbo Boost ในรุ่นที่มีระบบ Turbo Boost (เลขที่มากกว่า)

ซึ่งความเร็วสัญญาณนาฬิกาที่มากกว่าก็จะส่งผลให้ CPU ทำงานได้เร็วกว่า

Cache Memory

Cache Memory หรือ เรียกสั้นๆ ว่า Cache แล้ว Cache CPU มีไว้ทำไม ?

Cache มีหน้าที่เก็บคำสั่งที่ใช้บ่อยๆให้ CPU ซึ่งมันทำหน้าที่คล้ายๆ RAM แต่ว่ามันอยู่กับ CPU ด้วยเหตุผลนี้เองมันจึงทำงานได้ไวกว่า

ซึ่ง CPU แต่ละรุ่นจะให้ Cache Memory มาไม่เท่ากัน และแน่นอนว่า Cache เยอะกว่าย่อมดีกว่า

i3 i5 i7 ต่างกันยังไง ?

Intel Core i3

มี 2 Core และระบบ Hyper Treading (ทำให้มีทั้งหมด 4 Thread) ไม่มีระบบ Turbo Boost

มี Cache Memory น้อยที่สุด (ประมาณ 3 – 4 MB)

ราคาจะถูกที่สุดจาก 3 ตัว

Intel Core i5

มี 4 Core ไม่มีระบบ Hyper Treading ทำให้มีแค่ 4 Thread เท่านั้น แต่ Core i5 จะมีเทคโนโลยี Turbo Boost มาแทน ที่ช่วยเร่งความเร็ว Clock เวลาที่ CPU ประมวลผลหนักๆ

มี Cache Memory ประมาณ 4 – 6 MB

ราคาอยู่ระดับกลางจากทั้ง 3 ตัว

Intel Core i7

มี 4 Core และระบบ Hyper Treading (ทำให้มีทั้งหมด 8 Thread) แถมยังมีระบบ Turbo Boost อีกต่างหาก

ให้ Cache Memory มาประมาณ 8 MB

และแน่นอนว่าราคาแพงที่สุดจาก 3 ตัว

วิธีอ่านรหัส CPU Intel

ปัญหาที่ตามมาหลังจากที่พอจะเลือกได้แล้วว่าตัวเองเหมาะกั บรุ่นไหนระหว่าง i3 i5 i7 ก็คือพบว่าแต่ละ series มันไม่ได้มีรุ่นเดียว แถมมีตัวเลขและตัวอักษรภาษาอังกฤษชวนงงกำกับท้ายชื่อ

Keep in mind: เราพูดถึงแค่ i3 i5 และ i7 ของ PC เท่านั้น!

เริ่มจากซ้ายไปขวาตามรูป

Intel Core – ชื่อยี่ห้อ

i3 i5 i7 – ตามรายละเอียดที่ได้พูดถึงไว้ก่อนหน้านี้

Generation เลขเยอะกว่าก็จะใหม่กว่า และใช้เทคโนโลยีที่ใหม่กว่าผลิต ซึ่งปัจจุบันเลขที่มากสุดคือ 6 มีชื่อ Generation ของ CPU ว่า “Skylake” (ส่วน Generation ก่อนหน้าคือ “Boardwell” แทนด้วยเลข 5)

SKU Numeric Degits 3 ตัวถัดมาทำหน้าที่บอกรุ่นของ CPU ใน Generation นั้นๆ (เลขมากกว่าทำงานได้ดีกว่า)

เช่น ถ้าเลข 4 ตัวนี้เป็น 6400 ก็จะแปลความหมายได้ว่า “รุ่น 400 ของ Generation ที่ 6”

Product Line สำหรับบอกว่า CPU ตัวนี้ใช้กับ Device อะไร หรือใช้สำหรับอะไร

ซึ่งรหัสหลักๆที่คนปกติใช้และเห็นอยู่บ่อยๆก็ตามนี้ (ถ้าเจออันที่ไม่มีในนี้ก็ลองไปหาดูในลิ้งนี้ – http://www.intel.com/content/www/us/en/processors/processor-numbers.html)

ไม่มีรหัสส่วนนี้ – ก็เป็นรุ่นธรรมดา (Overclock ไม่ได้)
K – สามารถ Overclock ได้
M – CPU สำหรับใส่ Notebook
T – รุ่นประหยัดพลังงาน

ไปดูในเว็บหลักของ Intel ได้เกี่ยวกับวิธีเลือด CPU Intel กับการอ่านรหัส CPU Intel (เผื่อมีการอัพเดทอะไรเพิ่มขึ้นจากวันที่เขียนบทความนี้) – http://www.intel.com/content/www/us/en/processors/processor-numbers.html

หลังจากที่ทำความเข้าใจกับการอ่าน Spec ของ CPU Intel มาดูวิธีเลือก CPU Intel ให้เหมาะกับการใช้งานกัน

คิดจะ Overclock หรือไม่ ?

ถ้าคำตอบคือไม่ก็เอารุ่นธรรมดาที่ไม่มีอะไรต่อท้ายเลข ถ้าคิดจะ Overclock ก็ใช้รุ่นที่มี K ต่อท้าย

ใช้ทำอะไร ?

ถ้าใช้แค่ Word กับพวกโปรแกรมเบาไม่หนักเครื่อง และเล่นแต่เกมที่ไม่กินสเป็ค i3 คือคำตอบ แต่ถ้ามีเงินพอ i5 ก็ไม่เลว (จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ใช้ i3 แล้วรู้สึกหงุดหงิด)

เอามาใช้เล่นเกมเป็นหลัก งานอื่น ๆ ก็แค่ World, Power Point, Photoshop, Excel และ Render Video เป็นครั้งเป็นคราว ใช้แค่ i5 ก็พอ แล้วเอาตังค์ที่เหลือไปซื้อการ์ดจอดีๆมาใช้เล่นเกมดีกว่า

ทำงาน Graphic และพวก Render หนักๆ แนะนำว่าให้ใช้ i7 ซึ่งการ Render จะเห็นผลชัดเจนมากเมื่อเทียบกับ i5

งบไม่เกิน 20000-25000 ต้องการเอามาเล่นเกม แนะนำ i5 แล้วไปหาการ์ดจอดีๆมาใส่