กรุ๊ปเลือด A B AB และ O
การถ่ายเลือดต่างหมู่ก่อปฏิกิริยาในเลือดของมนุษย์ ซึ่งอาจมีการต่อต้านอย่างรุนแรงและอันตรายถึงชีวิต ระบบภูมิคุ้มกันของร่ายกายจะตอบสนองโดยโจมตีเซลล์ของเลือด ใหม่ จนเกิดการเจ็บป่วยถึงขั้นเสียชีวิตตามที่พบในบันทึกสมัยเก ่า การค้นพบของคาร์ล ลันด์สไตเนอร์ จึงพัฒนาการวงการแพทย์อย่างมาก ทำให้มนุษย์ปลดล็อคความเข้าใจเกี่ยวกับการถ่ายโอนเลือดตาม กรุ๊ปเลือด และทำให้การรักษาที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สามารถแจกแจงสารแอนติเจนและแอนติบอดีของกรุ๊ปเลือดแต่ละหม ู่ ดังนี้
– กรุ๊ปเลือด A คือคนที่มีสารแอนติเจน A บนผิวเม็ดเลือดแดงและไม่มีสารแอนติเจน B จึงสร้างสารต้านต่อแอนติเจน B (anti B)
– กรุ๊ปเลือด B คือคนที่มีสารแอนติเจน B บนผิวเม็ดเลือดแดงและไม่มีสารแอนติเจน A จึงสร้างสารต้านต่อแอนติเจน A (anti A)
– กรุ๊ปเลือด AB คือคนที่มีทั้งสารแอนติเจน A และสารแอนติเจน B บนผิวเม็ดเลือดแดงและไม่สร้างสารต้านทั้งสองชนิด
– กรุ๊ปเลือด O คือคนที่ไม่มีทั้งสารแอนติเจน A และสารแอนติเจน B บนผิวเม็ดเลือดแดง จึงสร้างสารต้านต่อทั้งแอนติเจน A และแอนติเจน B (เป็นที่มาของการเปลี่ยนจาก C เป็น O เพราะ “Ohne” ในภาษาเยอรมันแปลว่า “ไม่มี” หรือ Without / Zero)
ในการให้เลือดเราจะต้องได้เลือดจากคนเลือดกรุ๊ปเดียวกันหร ือเข้ากันได้ คือ ไม่มีสารต้านต่อแอนติเจนของเลือดที่จะถ่ายโอนนั่นเอง ดังนั้น ในการถ่ายเลือด เลือดกรุ๊ป A รับเลือดกรุ๊ป A กับ O ได้ เลือดกรุ๊ป B รับเลือดกรุ๊ป B กับ O ได้ เลือดกรุ๊ป AB รับเลือดได้ทุกหมู่ ส่วนเลือดกรุ๊ป O ต้องรับเลือดกรุ๊ปเดียวกันเท่านั้น (แต่บริจาคให้คนเลือดกรุ๊ปอื่นได้ทั้งหมด)
กรุ๊ปเลือด หรือ หมู่เลือด จึงเป็นเครื่องหมายทางชีวภาพที่แตกต่างกันของแต่ละคน อันจะเป็นประโยชน์สูงสุดเมื่อต้องได้รับการรักษาพยาบาล ไม่ใช่ตัวแปรหรือสิ่งบ่งชี้เกี่ยวกับอุปนิสัย พฤติกรรม และความสามารถ หรือมีผลสัมพันธ์ทางโภชนาการกับอาหารที่รับประทานเข้าไป อย่างที่นักธรรมชาติบำบัดบางคนกล่าวอ้าง และแน่นอนว่า กรุ๊ปเลือดไม่มีส่วนเชื่อมโยงหรือผูกกับดวงชะตาราศีแต่อย่ างใด อย่างน้อยทุกวันนี้ก็ยังไม่มีข้อพิสูจน์ที่เชื่อถือได้จาก วงการวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับทฤษฎีข้างต้น