Nvidia

1. โค้ด GTX กับ RTX โดย RTX คือซีรีย์ล่าสุดของ Nvidia ที่รองรับการทำงานแบบ Ray Tracing ช่วยให้ภาพที่เล่น สมจริงมากยิ่งขึ้น ส่วน GTX เป็นชื่อรุ่นที่เก่ากว่า
2. โค้ด Ti หมายถึง Titanium และหมายถึงการ์ดนั้นมีประสิทธิภาพมากกว่ารุ่นที่ไม่ใช่รุ่ น Ti ที่มีหมายเลขรุ่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น “Ti” ในชื่อรุ่น GTX 1050 Ti โดยทั่วไปหมายความว่าการ์ดใบนี้ทำงานได้ดีกว่า GTX 1050 แต่ไม่ดีเท่า GTX 1060 ซึงมี Cuda Core มากกว่า
3. โค้ด X เช่น 1060 Gaming X หมายถึดตัวการ์ดที่แบรนด์เอาการ์ดไปเพิ่มประสิทธิภาพการใช ้งานให้ดีขึ้น ซึ่งมันทำได้หลายอย่าง เช่น เพิ่มพัดลม เพิ่มคอร์ เพิ่มแรม ซึ่งแล้วแต่แบรนด์ว่าได้เพิ่มอะไรเข้าไป
4. โค๊ด Super หมายถึง Superman (ไม่ใช่) การ์ดจอที่มีคำว่า Super ตามหลัง โดยส่วนใหญ่แล้วจะคล้าย ๆ กับ Ti ที่เพิ่มจำนวน Cuda Core เข้ามา ทำให้ตัวการ์ดแรงขึ้น และหากการ์ดตัวใดมี Super ต่อท้ายก็มั่นใจได้ว่าตัวแรมการ์ดจอที่ให้มาจะเป็น GDDR6 ตัวใหม่เท่านั้น เช่น RTX 2070 Super
5. โค๊ด OC ย่อมาจาก Overclock โดยผู้ผลิตแต่ละยี่ห้อเค้าใส่มาเพื่อจะบอกว่ารุ่นนี้ Overclock สัญญาณนาฬิกาเพิ่มขึ้นจากเดิมแล้วนะ ประสิทธิภาพจะแรงขึ้นกว่ารุ่นปกติ เช่น GTX 1050Ti ตามสเปคจาก Nvidia จะมี Base core clock อยู่ที่ 1290 MHz แต่ถ้าเป็นของยี่ห้อ Msi GTX 1050 Ti OC จะมี Base core clock ที่ 1341 MHz ความแรงก็จะแรงกว่า
6. มีคำว่า Max-Q ต่อท้าย เช่น GTX 1660 Max-Q หมายถึงรุ่นประหยัดพลังงาน ส่วนใหญ่จะใช้ในโน้ตบุ๊ก
7. มีคำว่า MX ต่อท้าย คล้าย ๆ กับ Max-Q แต่ตัว MX ตัวชิปจะมีความแรงน้อยกว่า ใช้ในโน้ตบุ๊กขนาดเล็ก สำหรับใครที่ไม่อยากใช้ GPU ออนบอร์ด แต่ก็ไม่ได้อยากได้แพงมากนัก

AMD

ฝั่ง AMD อันนี้จะไม่ไม่เยอะเท่าไหร่ โดยจะมีแยกเป็นสองส่วนหลัก ๆ คือ AMD Radeon และ Readeon RX

1. โดย Radeon จะเป็นการ์ดจอรุ่นรองที่มักใช้ในโน้ตบุ๊กเช่นเดียวกัน MX และ Max-Q ช่วยประหยัดพลังงาน และมีประสิทธิภาพใกล้เคียง NVIDIA MX Series Radeon RX โดยส่วนใหญ่จะเป็นการ์ดจอบน Desktop ซึ่งมีแค่โน้ตบุ๊กไม่กี่รุ่นเท่านั้นที่นำ RX ไปใส่ โดย RX จะมีอักษรต่อท้ายที่พบส่วใหญ่แค่สองอย่างคือ XT กับ OC
2. XT นั้นจะแรงกว่ารุ่นที่ไม่มี XT เช่น RX5700XT จะแรง RX 5700 เพราะมีจำนวน Stream Processor (ความหมายเดียวกับ Cuda Core ของ Nvidia) มากกว่า ส่วน OC นั้นความหมายคือ Overclock นั้นและ