เคยได้ยินกฏ 80/20 ของ Pareto ไหม ? …พูดง่ายๆ คือ คนส่วนน้อยที่จะได้กำไร ในขณะที่คนส่วนใหญ่จะขาดทุน
หรือจะให้เห็นภาพ ก็คือ … นักลงทุน 100 คนสุดท้ายแล้วจะมีนักลงทุน 80 คนที่ขาดทุน และ 20 คนเท่านั้นที่ยังอยู่รอด
คนส่วนใหญ่ที่ขาดทุนนี้ แน่นอนว่ารูปแบบนี้ในการขาดทุน หรือสาเหตุในการขาดทุน
ย่อมแตกต่างกันไป แต่สิ่งที่จะบอกหมือนเป็นเครื่องเตือนใจจากประสบการณ์ของเ หล่าผู้ขาดทุนทั้งหมาย
เทรดถี่ เทรดบ่อยเกิน
แนวคิดที่ว่าจะต้องมีสถานะเข้าออกในตลาดอยู่ทุกวันหรือทุก ชั่วโมงทุกนาทีทั้งๆ ที่หลายครั้งตลาดไม่ได้วิ่งกว้างพอขนาดนั้น เรียกว่าเปิดรับ Risk Exposure แบบสมบูรณ์เรียกว่า ลืมคิดถึง Cost/Benefit ว่าคุ้มหรือไม่
ไม่มีแผนการเทรด
ไม่มีแผนการ ไม่มีกลยุทธ์และไม่จดบันทึกการลงทุน ปัญหานี้เรียกได้ว่าจะเป็นข้อแรกที่สำคัญที่สุดของผลกำไรข าดทุนเลยก็ว่าได้เพราะแผนการและกลยุทธ์คือการกำหนดทิศทางก ารลงทุนอย่างครอบคลุมซึ่งถ้าวางแผนให้ดีๆ
ส่วนการจดบันทึกนั้น มีข้อดีที่จะได้สามารถตรวจสอบทวนกลับได้ว่าที่ลงทุนไปแล้ว กำไรหรือขาดทุนเพราะสาเหตุใดคราวหน้าจะได้ไม่พลาดซ้ำสอง
ละเลยการบริหารความเสี่ยง
สิ่งที่ควรเรียนรู้การบริหารความเสี่ยงด้วยการตัดขาดทุนหร ือ Cut loss ฟังดูง่าย แต่ทำยากเพราะมีประเด็นเรื่องวินัยการลงทุนเข้ามาเกี่ยวข้ องด้วย
ไม่รู้จักตนเองไม่มีแนวทางที่ชัดเจน
การไม่รู้จักตนเอง ในที่นี้ ก็คือ เราไม่ทราบถึงระดับการยอมรับความเสี่ยงที่ตนเองรับได้และอ าจจะไม่ได้ flow เงินของตัวเอง เพื่อนำมาจัดรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสม
ตัวอย่างเช่น พนักงานบริษัทย่อมมีกระแสเงินสดรับรายเดือนต่างจาก นักลงทุนบางท่านที่ได้รับมรดกเป็นเงินก่อน
นักลงทุนยังหาไม่เจอว่า ตัวเอเหมาะกับการลงทุนในรูปแบบใดไม่ว่าจะเป็นการลงทุนด้วย ปัจจัยทางเทคนิค หรือการลงทุนด้วยปัจจัยพื้นฐาน
นอกจากนั้นยังอาจหมายรวมถึงการไม่เข้าใจหลักการที่แท้จริง ของรูปแบบการลงทุนดังกล่าวด้วย เพราะฉะนั้นเลือกสักทางแล้วเอาดีให้สุดเพราะทุกแนวทางมีคน ที่ประสบความสำเร็จเสมอ
เพราะอย่าลืมว่า ตลาดหุ้น คือ Zero Sum Game เงินเราคือเงินเขา-เงินเขาคือเงินเรามันไม่ง่ายที่จะได้เง ินมา ต้องชิงไหวชิงพริบกันพอตัว