ลงทะเบียน
ใกล้กัน ช่วยให้คุณแชร์เรื่องราวต่างๆ กับผู้คนมากมาย

เมื่อถูกงูกัด วิธีการสังเกตว่างูนั้นมีพิษหรือไม่ ให้สังเกตที่รอยเขี้ยว

งูไม่มีพิษ รอยฟันบนผิวหนังจะเรียงเป็นแถว

งูมีพิษ จะมีรอยเขี้ยว 2 จุดชัดเจน หรือมีเลือดซึมออกจากแผล และบริเวณรอบๆ รอยเขี้ยวมีสีคล้ำ หรืออาจพองเป็นถุงน้ำ

 

หากโดนกัดสิ่งแรกคือ ตั้งสติให้ดี อย่าตกใจ พยายามเคลื่อนไหวร่างกายให้ น้อยที่สุด เพราะพิษงูจะถูกสูบฉีดแล่นเข้าสู่หัวใจได้ช้าลง อาการของพิษงูจะเริ่มแผ่ซ่านตั้งแต่ 15 - 30 นาที หรืออาจนานถึง 9 ชั่วโมง จึงต้องเฝ้าสังเกตอาการอย่างต่อเนื่อง จากนั้นจึงทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

  1. ล้างแผลด้วยน้ำและสบู่ ไม่ควรใช้เหล้า ยาสีฟัน ขี้เถ้าทาแผล หรือสมุนไพรใดๆ
  2. บีบเลือดออกจากแผลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ (ไม่ควรใช้ปากดูดหรือเปิดปากแผลด้วยของมีคม)
  3. การรัด เพื่อให้อวัยวะนั้นอยู่นิ่ง ไม่ใช่เป็นการห้ามพิษเข้าสู่หัวใจตามที่คนส่วนใหญ่เข้าใจไ ม่ถูกต้อง
    โดยควรรัดเหนือและใต้บาดแผลประมาณ 3 นิ้วมือ ไม่ควรรัดแน่นมาก พอสอดนิ้วมือได้ 1 นิ้ว หากรัดแน้นจะทำให้อวัยวะส่วนปลายขาดเลือดและเน่าตาย
  4. ใช้ผ้าสะอาดห้ามเลือดด้วยการกดแผลโดยตรง ถ้าสามารถใช้แอลกอฮอล์หรือเบต้าดีนทาแผลได้ก็จะเป็นผลดีต่ อการทำลายเชื้อโรคต่างๆ
  5. วางอวัยวะส่วนนั้นให้ต่ำกว่าหรือระดับเดียวกับหัวใจ
  6. รับประทานยาแก้ปวดหากรู้สึกปวด แต่ห้ามใช้ยาที่มีฤทธิ์แอลกอฮอล์ ยาระงับประสาท ยานอนหลับ ยาดองเหล้า เป็นต้น
  7. รีบนำผู้ป่วยส่งสถานพยาบาลใกล้บ้าน ไม่จำเป็นต้องนำซากงูมาให้แพทย์ตรวจดูว่าเป็นงูประเภทใด
    เนื่องจากอาจจับได้ในบริเวณใกล้เคียงซึ่งไม่ใช่เป็นตัวที่ กัด ปัจจุบันใช้การดูรอยกัดและลักษณะแผลเพื่อกำหนดการใช้เซรุ่ มต้านพิษงูฉีดให้เหมาะสม
  8. ให้ระลึกเสมอว่างูที่กัดทุกตัวเป็นงูมีพิษ

ขอขอบคุณ: คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

 

Captcha Challenge
ลองรูปภาพใหม่
Type in the verification code above